ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ จากแมนูไลฟ์
ประกันชีวิต และประกันสุขภาพ
จากแมนูไลฟ์
จัดการความเสี่ยงได้ตรงตามใจคุณ ด้วย 5 แบบประกัน 5 สไตล์ จากแมนูไลฟ์ ประกันชีวิต เลือกได้แล้ววันนี้ที่โกแบร์
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับประกันชีวิต
Q: ประกันชีวิตคืออะไร?
ประกันชีวิต ก็คือการที่ผู้ซื้อประกัน หรือ ผู้เอาประกัน จ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้แก่บริษัทประกัน ตามจำนวนและระยะเวลาที่ตกลงกัน เงินจำนวนที่ผู้เอาประกันจ่ายไปนี้ เรียกว่า “เบี้ยประกัน” ครับ โดยเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตาย การสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ หรือแม้กระทั่งการสูญเสียรายได้ในยามชรา ผู้เอาประกันก็จะได้รับเงินเฉลี่ยช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ตนเองและครอบครัว โดยทางบริษัททำหน้าที่เป็นผู้จ่ายให้ ตามจำนวนที่ได้ตกลงกันนั่นเอง
Q: คำศัพท์ที่เราควรรู้ก่อนการทำประกันชีวิต มีอะไรบ้าง?
-
ผู้เอาประกัน คือ ผู้ที่ซื้อประกันจากบริษัทประกัน เพื่อได้รับความคุ้มครองตามที่ตกลงกับบริษัทประกันนั่นเองครับ
-
ผู้รับประกัน คือ บริษัทประกัน
-
ผู้รับผลประโยชน์ คือ บุคคลที่จะได้รับสินไหมทดแทน หรือรับจำนวนเงินที่บริษัทจะจ่ายชดใช้ตามที่ระบุในกรมธรรม์ให้เมื่อเกิดความเสียหายใดๆ ขึ้นกับผู้เอาประกัน
-
กรมธรรม์ คือ เอกสารที่ทางบริษัทประกันออกให้แก่ผู้เอาประกันเก็บไว้เป็นหลักฐาน
-
การเวนคืนกรมธรรม์ คือ การที่เราขอยกเลิกกรมธรรม์ เพื่อรับเงินสดที่ได้ชำระเบี้ยไปก่อนหน้าแก่บริษัทประกัน
-
มูลค่าเงินสด คือ มูลค่าที่จะเกิดขึ้นจากการที่ผู้เอาประกันจ่ายเบี้ยประกันไปแล้วอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไปครับ
-
ทุพพลภาพ คือ การสูญเสียอวัยวะหรือสูญเสียสมรรถภาพของอวัยวะหรือของร่างกายหรือสูญเสียภาวะปกติของจิตใจ จนทำให้ความสามารถในการทำงานลดลงถึงขนาดไม่อาจประกอบการงานตามปกติได้
Q: ประกันชีวิตมีทั้งหมดกี่แบบ อะไรบ้าง?
ประกันชีวิตแบ่งได้ทั้งหมด 4 แบบ ดังนี้ครับ
-
ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา เป็นการประกันชีวิตที่บริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตในระยะเวลาประกันภัย เช่น 5 ปี 10 ปี 15 ปี ตามแต่ตกลงกัน การประกันชีวิตแบบนี้ไม่มีส่วนของการออมทรัพย์ ทำให้มีข้อดีคือ เบี้ยประกันภัยต่ำกว่าแบบอื่น ๆ และเลือกระยะเวลาคุ้มครองเองได้ แต่จะให้ความคุ้มครองกรณีผู้เอาประกันเสียชีวิตเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จึงไม่มีเงินเหลือคืนให้ในกรณีผู้เอาประกันภัยอยู่จนครบกำหนดสัญญาครับ
-
ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ประกันชีวิตลักษณะนี้เน้นการคุ้มครองระยะยาวตลอดชีพ หรือจนถึงอายุ 90 ปี หรือ 99 ปี เป็นต้น ถ้าผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตในระยะเวลาที่กรมธรรม์มีผลบังคับอยู่ บริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ วัตถุประสงค์เบื้องต้นของการประกันภัยแบบนี้มีเพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการเจ็บป่วยในช่วงสุดท้ายของชีวิตและค่าทำศพ หรือเพื่อวางแผนมรดกจะได้ไม่เป็นภาระแก่ลูกหลานต่อไปครับ ข้อแตกต่างระหว่างแบบตลอดชีพกับแบบชั่วระยะเวลาคือ แบบตลอดชีพได้ความคุ้มครองที่นานกว่า และสามารถเวนคืนกรมธรรม์ เพื่อรับเงินก้อนได้
-
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นการประกันชีวิตที่มีผลตอบแทนแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกบริษัทจะจ่ายเงินให้แก่ผู้เอาประกันภัย เมื่อมีชีวิตอยู่ครบกำหนดสัญญา หรือจ่ายเงินให้กับผู้รับผลประโยชน์ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตลงภายในระยะเวลาของการประกันภัย อีกส่วนหนึ่งจะเป็นเงินในรูปแบบการออมทรัพย์ ซึ่งผู้เอาประกันภัยจะได้รับคืนเมื่อสัญญาครบกำหนดครับ
- ประกันชีวิตแบบเงินได้ประจำ (แบบบำนาญ) เหมาะสำหรับคนที่ต้องการออมเงินระยะยาว วางแผนการใช้เงินหลังเกษียณ เนื่องจากบริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเท่ากันอย่างสม่ำเสมอให้เราทุกเดือน นับตั้งแต่อายุครบ 55 ปี หรือ 60 ปี เป็นต้นไป แล้วแต่เงื่อนไขในกรมธรรม์ที่กำหนดไว้ สำหรับระยะเวลาการจ่ายเงินได้ประจำนี้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เอาประกันชีวิตที่จะเลือกซื้อครับ
Q: ทำประกันชีวิตแล้ว ได้ประโยชน์อะไรบ้าง?
-
ออมเงิน การทำประกันชีวิตก็เหมือนเป็นการบังคับตัวเองให้มีวินัยต่อการออมเงินอย่างหนึ่ง โดยที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายเบี้ยประกันอย่างสม่ำเสมอ และหากผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่จนครบตามที่กรมธรรม์กำหนดไว้ ก็จะได้เงินคืนตามเงื่อนไขของสัญญา ซึ่งสามารถนำเงินตรงนี้ไปเก็บออมไว้ใช้ยามชรา หรือเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาของบุตรหลานได้ครับ แต่การทำประกันออมทรัพย์นั้นจะไม่สามารถถอนเงินในลักษณะของการฝากเงินได้ แต่เราสามารถขอยกเลิกกรมธรรม์ เพื่อรับเงินสดคืนจากบริษัทได้บางส่วนเมื่อจ่ายเบี้ยประกันไปแล้วอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป ซึ่งเราเรียกว่า การเวนคืนกรมธรรม์ โดยเงินสดที่จะได้รับคืนก็จะมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามจำนวนปีที่ส่งเบี้ยประกันนั่นเอง
-
สร้างความมั่นคงให้กับชีวิตของผู้เอาประกันภัย การประกันชีวิตสามารถช่วยสร้างความมั่นคงของรายได้ให้แก่ผู้เอาประกันภัยได้ ในกรณีการทำประกันคุ้มครองการเจ็บป่วย หรือการประกันอุบัติเหตุ ผู้เอาประกันภัยจะได้เงินทดแทนในกรณีทุพพลภาพโดยสิ้นเชิงด้วยครับ
-
ให้ความคุ้มครองและบรรเทาความเดือนร้อนให้กับผู้ที่อยู่ในอุปการะ การทำประกันชีวิตจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเรื่องการเงิน รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นของครอบครัว อันเนื่องมาจากการเสียชีวิตของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวหน้าครอบครัว เพราะผลประโยชน์จะตกถึงลูกหลานหรือผู้ที่เราอุปการะไว้ครับ
-
สิทธิประโยชน์ทางภาษี ผู้ทำประกันชีวิตสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตไปใช้เป็นค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับแบบทั่วไป และ 200,000 บาทสำหรับการทำประกันชีวิตแบบบำนาญ ครับ
- ประโยชน์ด้านอื่น ๆ การทำประกันชีวิตก็เปรียบเสมือนการเตรียมเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เพื่อนๆบางคนอาจยังไม่ทราบว่า กรมธรรม์ประกันชีวิตนั้นสามารถใช้เป็นหลักประกันในการกู้เงินได้ด้วย เพราะเมื่อกรมธรรม์ครบกำหนดตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป กรมธรรม์นั้นก็จะมีมูลค่าเงินสดเกิดขึ้น หากผู้เอาประกันภัยมีความจำเป็นทางการเงินก็สามารถขอกู้เงินจำนวนหนึ่งตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด ไปใช้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำได้ครับ
Q: กรณีไหนบ้าง ที่บริษัทจะไม่จ่ายเงินประกัน?
-
เมื่อผู้รับผลประโยชน์ฆ่าผู้เอาประกันตาย
-
เมื่อผู้เอาประกันฆ่าตัวตายภายใน 1 ปี นับจากวันทำสัญญาหรือวันต่ออายุสัญญาครั้งสุดท้าย
ทั้งนี้ความตายที่เกิดจากสาเหตุข้างต้นดังกล่าว บริษัทประกันชีวิตจะไม่จ่ายจำนวนเงินเอาประกันชีวิตให้ แต่จะคืนเฉพาะเบี้ยประกันชีวิตที่ได้ชำระมาแล้วทั้งหมดเท่านั้นครับ
Q: ทำ “ประกันชีวิต” แล้ว จะได้รับความคุ้มครองเรื่องสุขภาพ เหมือน "ประกันสุขภาพ" หรือไม่
เมื่อทำประกันชีวิต ผู้เอาประกันจะได้กรมธรรม์หลักที่ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ หรือกรณีการมีชีวิตอยู่รอดตามระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้นครับ หากต้องการได้รับความคุ้มครองเรื่องสุขภาพด้วย เช่น ต้องการได้รับเงินชดเชยค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล หรือเงินชดเชยรายได้เนื่องจากต้องนอนพักรักษาตัว เพื่อน ๆ สามารถทำ "ประกันสุขภาพ" เป็นสัญญาเพิ่มเติมจากกรมธรรม์ประกันชีวิตได้ครับ