8 สถานที่ลอยกระทงน่าไปปี 2563
- Icon Siam
- สวนลุมพินี
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- Asiatique
- ล่องเรือดินเนอร์ ลอยกระทงที่แม่น้ำเจ้าพระยา
- Shangri La Hotel
- Mandarin Oriental
- Chatrium Hotel Riverside Bangkok
อีกไม่ถึงอาทิตย์ก็จะถึงวันลอยกระทงปี 2563 ที่ทุกคนตั้งตารอแล้วนะครับ โดยหลายคนก็คงยังไม่แน่ใจว่าปีนี้จะไป ลอยกระทงที่ไหนดี โดยสำหรับในปีนี้ แม้ว่าจะมีสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้อีเวนต์หลายๆอย่างดูจะไม่สนุกเท่าเมื่อก่อน แต่ลอยกระทงเป็นของคู่กันกับคนไทยมาช้านาน พี่หมีโกแบร์เชื่อว่าเพื่อนๆสามารถไปลอยกระทงได้ตามต้องการพร้อมยังคงสามารถเฝ้าระวังความปลอดภัยได้ด้วยเช่นกันครับ
และสำหรับวันลอยกระทงในปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม 2563 ถ้าหากใครยังไม่แน่ใจว่าปีนี้จะไปลอยกระทงที่ไหนดีในกรุงเทพฯ พี่หมีจึงได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ลอยกระทงในกรุงเทพฯ ยอดฮิตมาฝากกัน ทั้งแบบที่เป็น event สาธารณะและแบบที่เป็นการจัดงานของโรงแรมริมน้ำต่างๆ จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลยครับ
1. Icon Siam
คนที่ยังไม่รู้ว่าจะไปลอยกระทงที่ไหนดี ควรมาลองที่นี่ โดยสำหรับสถานที่ลอยกระทงในกรุงเทพฯที่น่าจะเป็นที่จับตามองมากๆในปี 2563 นี้ ก็คงไม่พ้นงานลอยกระทงไอคอนสยามที่เป็นที่กล่าวถึงกันอย่างมาก เนื่องจากห้างเปิดใหม่ห้างนี้อยู่ติดริมน้ำ และอยู่ในทำเลที่เป็นตัวแทนความอุดมสมบูรณ์ มั่งคั่ง และร่ำรวย
โดยในปีนี้ ทางห้างไอคอนสยามจะจัดงานลอยกระทงแบบเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทั้งการจำหน่ายกระทงน้ำแข็ง หรือกระทงที่ใช้วัสดุธรรมชาติที่ย่อยสลายได้ อีกทั้งยังมีกิจกรรมต่างๆมากมาย ทั้งการประกวดนางนพมาศ การแสดงมินิคอนเสิร์ตจากนักร้องชื่อดัง แถมยังมีการจัดแสดงกระทงนานาชาติอีกด้วย โดยงานนี้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2563 ไปจนถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 กันเลยทีเดียวครับ
2. สวนลุมพินี
ถ้าเพื่อนๆอยู่แถวใจกลางเมือง แต่ยังไม่รู้จะไปลอยกระทงที่ไหนดี สวนลุมพินีก็เป็นหนึ่งในสถานที่ลอยกระทงในกรุงเทพฯ ที่จะมีการจัดงานลอยกระทงเป็นพิเศษในทุกๆปีกันแบบสนุกสนาน ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวที่ร่มรื่น พร้อมกับมีสระอยู่มากมายที่เพื่อนๆสามารถนำกระทงไปลอยได้ ถ้าหากใครได้ไปกับคู่รัก พอลอยกระทงเสร็จ ก็สามารถมาเดินเล่นในสวนยามค่ำคืนพร้อมชมแสงไฟระยิบระยับจากเมืองได้ โรแมนติกไปอีกแบบมากๆเลยล่ะครับ
3. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สำหรับใครที่เป็นวัยรุ่นหรือนิสิตนักศึกษา ถ้ายังไม่รู้จะไปลอยกระทงที่ไหนดี ที่จุฬาฯนี่ล่ะครับที่เหมาะที่สุด เพราะเป็นแหล่งรวมกิจกรรมต่างๆมากมายที่จัดโดยนักศึกษาเอง อีกทั้งยังมีร้านรวงต่างๆให้เพื่อนๆเลือกซื้อกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ของกินของใช้ต่างๆ และในยามค่ำคืนมีการแสดงคอนเสิร์ตจากวงดนตรีของนักศึกษาและวงดนตรีชื่อดังต่างๆ คอยสร้างบรรยากาศให้วันลอยกระทงที่นี่เป็นไปด้วยความสนุกสนานและรื่นรมย์ในเวลาเดียวกัน
อีกทั้งการมาลอยกระทงที่จุฬาฯ ก็มีเรื่องเล่าขานกันว่า ถ้าลอยกระทงคู่กัน จะต้องอกหักเลิกกัน แต่ถ้าคนโสดลอยกระทงก็จะได้คู่ อันนี้พี่หมีก็ไม่สามารถการันตีได้เหมือนกันว่าจริงไหม แต่ใครอยากลองก็ต้องไม่พลาดครับ
4. Asiatique
หากเพื่อนๆยังไม่รู้ว่าจะไปลอยกระทงที่ไหนดีในกรุงเทพฯ ให้นึกถึงการมาลอยกระทงที่เอเชียทีคไว้ก่อนได้เลยครับ เพราะนี่เป็นสถานที่ยอดฮิตในการลอยกระทงมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวช้อปปิ้งยามค่ำคืนริมแม่น้ำที่เดินทางสะดวก อีกทั้งทุกๆปี เอเชียทีคก็จะจัดงานลอยกระทงอย่างยิ่งใหญ่ รวมไปถึงยังมีกิจกรรมและการแสดงต่างๆให้เพื่อนได้เดินชมอีกมาก ได้บรรยากาศสนุกๆ แถมได้ดูวิวริมน้ำ สวยๆแบบนี้ ต้องไปลองให้ได้เลยครับ
5. ล่องเรือดินเนอร์ ลอยกระทงที่แม่น้ำเจ้าพระยา
หากใครเบื่อที่จะไปลอยกระทงบนบกแต่ก็ไม่รู้จะไปลอยกระทงที่ไหนดี ลองมาล่องเรือทานดินเนอร์แบบโรแมนติกแล้วลอยกระทงกลางแม่น้ำเจ้าพระยากันดูไหมครับ? ไอเดียนี้ถือว่าแจ่มเอามากๆ ใครที่พอมีทุนทรัพย์ก็ควรจะไปลองให้ได้สักครั้ง เพราะมีความพิเศษและเป็นส่วนตัวเอามากๆ
แต่ว่าเพื่อนๆก็อาจจะต้องจองคิวล่วงหน้าเป็นเวลานานหน่อยนะครับ เพราะในช่วงลอยกระทงถือเป็นช่วงยอดฮิตที่บริการล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยามักถูกจองเต็มหมด ใครได้ลองแล้วมาบอกพี่หมีด้วยนะครับว่าเป็นยังไงบ้าง
6. Shangri La Hotel
ถ้าหากเพื่อนๆอยากทำให้ค่ำคืนวันลอยกระทงเป็นค่ำคืนสุดพิเศษกับคนรู้ใจ แต่ยังไม่รู้จะไปลอยกระทงที่ไหนดี พี่หมีขอแนะนำให้เพื่อนๆ พาแฟนไปดินเนอร์สุดหรูได้ที่โรงแรมแชงกรีล่า ที่สามารถดื่มด่ำไปกับบรรยากาศริมน้ำภายใต้แสงจันทร์เต็มดวงได้อย่างเต็มที่
โดยเพื่อนๆสามารถดินเนอร์ได้ทั้งที่ เน็กซ์ทู คาเฟ่ ที่เสิร์ฟอาหารทะเลสดๆ หรือจะดื่มด่ำกับความเป็นไทยให้เต็มเปี่ยมที่ห้องอาหารศาลาทิพย์ ที่ระเบียงริมน้ำของห้องอาหารแห่งนี้คือหนึ่งในสถานที่ที่โรแมนติกที่สุดของโรงแรม และหลังจากได้ดินเนอร์สุดโรแมนติกแล้ว ทางโรงแรมก็จะมอบกระทงฟรีให้กับเพื่อนๆ เพื่อร่วมกันลอยกระทงที่ริมแม่น้ำ พร้อมรับชมการแสดงน่าประทับใจ อย่างเช่น ขบวนแห่กลองยาว การประกวดนางนพมาศ และการแสดงรำไทยอันงดงาม รวมถึงถ้าใครแต่งกายชุดไทยมาร่วมงาน ก็สามารถลุ้นรางวัลได้พักห้องสวีทของโรงแรมอีกด้วยครับ
7. Mandarin Oriental
หรือแม้ว่าเพื่อนๆจะรู้จักกับสถานที่ลอยกระทงในกรุงเทพฯมากมาย หรือใครที่ยังไม่รู้จะไปลอยกระทงที่ไหนดี ก็สามารถลองเปลี่ยนบรรยากาศมาดูดูประเพณียี่เป็งในกรุงเทพฯ ก็สามารถไปดูได้ที่โรงแรม Mandarin Oriental ได้เลยนะครับ โดยที่เพื่อนๆ สามารถดื่มด่ำไปกับบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ ที่ห้องอาหาร ริเวอร์ไซด์ เทอเรซ ได้ก่อน เสร็จแล้วก็สามารถชมโคมไฟสีสันสวยงาม และเพลิดเพลินกับการแสดงพื้นเมืองต่างๆ ปิดด้วยการชมพลุดอกไม้ไฟริมแม่น้ำเจ้าพระยาไม่เหมือนใคร
8. Chatrium Hotel Riverside Bangkok
หรือถ้าอยากทำให้วันลอยกระทงเป็นค่ำคืนสุดพิเศษระหว่างคุณสองคนจริงๆแต่ไม่รู้จะไปลอยกระทงที่ไหนดี ก็ต้องไปที่สถานที่ลอยกระทงในกรุงเทพที่เอ็กซคลูซีฟมากๆ อย่างที่โรงแรม Chatrium Hotel Riverside Bangkok ที่มีแพ็คเกจวันลอยกระทงแบบที่รวมบุฟเฟ่ต์โรงแรมมื้อค่ำ พร้อมร่วมกิจกรรมศิลปะการแสดงและกิจกรรมลอยกระทง เมื่อจบคืน ก็สามารถเข้าพักที่ห้องแกรนด์รูม ซิตี้วิว ต่อได้เลย 1 คืน ถือว่าคุ้มเอามากๆ ใครอยากทำให้แฟนประทับใจ ต้องไม่พลาดแพ็คเกจนี้โดยเด็ดขาดเลยล่ะครับ
พอรู้แบบนี้แล้ว ก็คงไม่ต้องสงสัยกันอีกว่าปีนี้จะไปลอยกระทงที่ไหนดี เพราะก็มีสถานที่ลอยกระทงในกรุงเทพฯ ให้เพื่อนๆ ได้เลือกสรรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งแบบสวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่ ตามโรงแรมริมแม่น้ำให้เพื่อนๆเลือกได้ตามใจชอบ และถ้าหากเพื่อนๆ อยากสร้างประสบการณ์วันลอยกระทงให้อิ่มเอมและดื่มด่ำได้เต็มที่ การได้ทำบัตรเครดิตดีๆ สักใบติดเอาไว้ ก็สามารถทำให้เพื่อนๆ ใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าพร้อมแลกคะแนนบัตรเครดิตกลับมาได้อีกด้วยนะครับ ถ้าเพื่อนๆ สนใจสมัครบัตรเครดิตใบที่ใช่ ก็สามารถเข้ามาเปรียบเทียบบัตรเครดิตได้ที่เว็บไซต์โกแบร์เลยนะครับ
