ทำประกันชีวิตดีไหม ทำประกันชีวิตแบบไหนดี
- รู้จักประกันชีวิตฉบับเข้าใจง่าย
- ทำประกันชีวิตมีข้อดีอย่างไร
- ประกันชีวิตแบบไหนดี
- ทำประกันชีวิตแบบไหนดี ต้องดูอะไรบ้าง
พอเข้าสู่วัยทำงาน พี่หมีเชื่อว่าเพื่อนๆ จะเริ่มหาทางลดหย่อนภาษี สร้างเงินออม หรือบริหารจัดการความเสี่ยงให้ตัวเองและครอบครัว ซึ่ง ประกันชีวิต น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกเพื่อตอบโจทย์เหล่านี้ แต่ก่อนจะโดดไปซื้อประกันชีวิต พี่หมีอยากให้เพื่อนๆ หยุดความคิดนั้นไว้ และมาทำความรู้จักผลิตภัณฑ์ทางการเงินตัวนี้ให้ถ่องแท้ก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของเพื่อนๆ กันนะครับ

รู้จักประกันชีวิตฉบับเข้าใจง่าย
เพื่อปูพื้นฐานให้แน่น พี่หมีอยากให้เพื่อนๆ เข้าใจนิยามของประกันชีวิตก่อนครับ
ประกันชีวิต คืออะไร? ประกันชีวิต คือ การชดเชยรายได้ที่ต้องสูญเสียไปอันเนื่องมาจากความตาย ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงหรือชราภาพ โดยบริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ให้แก่ผู้เอาประกันภัย หรือผู้รับประโยชน์ ตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันชีวิต[1]
ถ้ายกตัวอย่างแบบง่ายๆ สมมติว่าพี่หมีทำประกันชีวิต พี่หมีก็จะเป็นผู้เอาประกันภัย ซึ่งต้องจ่ายเบี้ยประกันให้บริษัทประกัน ทีนี้ถ้าพี่หมีเกิดเสียชีวิตขึ้นมาภายในระยะเวลาที่ทำประกัน ลูกของพี่หมี (หรือคนอื่นก็ได้ แล้วแต่จะระบุในสัญญา) ก็จะได้เงินชดเชยในฐานะผู้รับผลประโยชน์ แต่ถ้าพี่หมีมีชีวิตอยู่จนครบอายุที่กำหนดไว้ในสัญญา พี่หมีก็จะได้เงินจากบริษัทประกันชีวิตครับ
ทำประกันชีวิตมีข้อดีอย่างไร
ถ้าถามว่า ทำไมต้องทำประกันชีวิต ก็เพราะเป็นวิธีการรับมือกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในชีวิต ลองจินตนาการดูนะครับว่าถ้าวันหนึ่งเกิดเรื่องไม่คาดฝันกับตัวเพื่อนๆ ขึ้นมา เช่น ประสบอุบัติเหตุจนทำให้ทุพพลภาพหรือต้องเสียชีวิต และถ้าเพื่อนๆ เป็นเสาหลักของบ้านและมีคนต้องดูแล เช่น พ่อแม่ ลูก คู่สมรส เขาจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไร? จะขาดรายได้และประสบกับความลำบากจนต้องกู้กินหรือไม่? ซึ่งถ้าเพื่อนๆ ทำประกันชีวิตไว้ก็จะอุ่นใจได้เพราะคนกลุ่มนี้จะได้รับเงินชดเชยอย่างแน่นอน
ประกันชีวิตแบบไหนดี
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงเริ่มคิดว่า ทำประกันชีวิตเลยดีไหม? ใจเย็นครับ ต่อให้ตัดสินใจทำเลย เพื่อนๆ ก็จะเจอกับคำถามต่อไปจากตัวแทนขายประกันอยู่ดีว่า ทำประกันชีวิตแบบไหนดี ดังนั้น มารู้จักประเภทของประกันชีวิตและดูกันก่อนครับว่าแบบไหนที่เหมาะกับเพื่อนๆ

ประเภทของประกันชีวิต
โดยทั่วไป ประกันชีวิตแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ประกันชีวิตแบบบำนาญ ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ และประกันชีวิตแบบยูนิตลิ้งค์ ซึ่งประกันเหล่านี้สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ นอกจากนี้ยังให้ผลตอบแทนที่ต่างกันอีกด้วย
เพื่อให้ย่อยง่ายขึ้น พี่หมีทำตารางรายละเอียดประกันทั้ง 5 ประเภทนี้มาให้ดูกันครับ
ประเภทประกัน |
ลักษณะประกัน |
ข้อดี |
ข้อเสีย |
เหมาะกับคนที่ |
---|---|---|---|---|
ประกันสะสมทรัพย์ |
เน้นการออม การันตีเป้าหมายเงินออมที่จะได้รับเมื่อครบอายุกรมธรรม์ |
|
|
ต้องการออมแบบมีเป้าหมายแน่ชัดในระยะยาว |
ประกันชีวิตแบบบํานาญ |
เน้นออมเงินเพื่อเกษียณ โดยต้องจ่ายเบี้ยประกันถึงช่วงอายุหนึ่ง พอถึงวัยเกษียณตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ก็จะได้เงินคืนเป็นรายปี |
มีเงินใช้ยามเกษียณทุกปี |
ผลตอบแทนไม่สูง |
ต้องการมีเงินบำนาญช่วงเกษียณ |
ประกันแบบชั่วระยะเวลา |
เน้นความคุ้มครองเฉพาะเมื่อเสียชีวิตในระยะเวลาที่กำหนดไว้ |
|
เป็นเบี้ยทิ้งเปล่า เพราะถ้ามีชีวิตอยู่ครบกำหนดก็จะไม่ได้รับเงินคืน |
ต้องการกำหนดระยะเวลาคุ้มครองชั่วคราว ประมาณ 5 - 15 ปี |
ประกันแบบตลอดชีพ |
เน้นความคุ้มครองยาว ได้เงินประกันเมื่อเสียชีวิตหรืออายุครบ 90 - 99 ปี |
เบี้ยประกันค่อนข้างถูก |
|
ส่งต่อผลประโยชน์หรือมรดกให้กับคนข้างหลัง เช่น ลูกหลาน คู่สมรส |
ประกัน Unit Link |
นำเบี้ยประกันส่วนหนึ่งของเราไปลงทุนในกองทุนรวม โดยที่เราสามารถจัดพอร์ตลงทุนเองได้ |
|
มีความเสี่ยงกว่าประกันชีวิตอื่นๆ เพราะมีการนำเบี้ยไปลงทุน ทำให้ผลตอบแทนไม่แน่นอน |
|

ทำประกันชีวิตแบบไหนดี ต้องดูอะไรบ้าง
เพื่อให้การทำประกันชีวิตเกิดผลประโยชน์สูงสุด พี่หมีแนะนำให้เพื่อนๆ ถามตัวเองง่ายๆ ด้วยคำถามนี้ครับ
เพื่อนๆ มีภาระด้านการเงินที่ต้องรับผิดชอบให้แก่ผู้อื่น อาทิ พ่อแม่ ลูก คู่สมรส ญาติพี่น้อง หรือคนในอุปการะหรือไม่
ถ้าตอบว่าไม่ พี่หมีแนะนำว่าไม่จำเป็นต้องทำประกันชีวิตก่อนก็ได้ครับ เว้นแต่เพื่อนๆ อยากหาที่ออมเงินชนิดที่ถอนไม่ได้จนกว่าจะถึงกำหนด หรืออยากมีเงินใช้ตอนเกษียณโดยที่ปราศจากความเสี่ยง การทำประกันชีวิตก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ก็ต้องยอมรับนะครับว่าผลตอบแทนที่ได้อาจไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ดังนั้น ถ้ามาด้วยโจทย์ที่อยากรวย อยากมั่งคั่ง ประกันไม่ใช่คำตอบครับ
แต่ถ้าเพื่อนๆ ตอบว่า ใช่ กับคำถามด้านบน มาต่อกันที่คำถามถัดไปครับ
เป้าหมายหลักของการทำประกันชีวิตคืออะไร
ตรงนี้อยากให้เพื่อนๆ ลิสต์เป้าหมายชีวิตออกมาด้วยครับ เพื่อที่จะได้เอามาจับคู่กับประกันชีวิตได้ เช่น ถ้าอยากมีเงินใช้ยามเกษียณแบบแน่นอน ก็ควรเลือกทำประกันชีวิตบำนาญ หรือถ้าอยากแน่ใจว่าลูกน้อยของเราจะมีทุนการศึกษาพอที่จะเรียนจบแม้ว่าตัวเองจะจากโลกนี้ไปแล้ว ก็ควรพิจารณาประกันชีวิตตลอดชีพหรือประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา หรือถ้าไม่แน่ใจ ปรึกษาตัวแทนประกันชีวิตอีกทีก็ได้เช่นกันครับ
พอรู้ประเภทของประกันชีวิตที่เหมาะกับตัวเองแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องถามตัวเองก็คือ
เพื่อนๆ มีความสามารถในการชำระเบี้ยประกันชีวิตมากน้อยแค่ไหน
ประกันชีวิตส่วนใหญ่นั้นจะให้คุณจ่ายเบี้ยประกันอย่างต่อเนื่อง บางคนอยากให้ประกันคุ้มครองเยอะๆ ก็จะยอมจ่ายเงินก้อนโตเพื่อให้ได้สิทธิ์นั้น ซึ่งไม่ใช่หลักการที่ถูกต้องเท่าไหร่ เพราะถ้าวันหนึ่งคุณจ่ายไม่ไหว ก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมา หรือจำใจต้องยกเลิกประกันไปโดยปริยาย
ดังนั้นการชำระเบี้ยประกันควรกำหนดเกณฑ์แต่พอดี โดย ค่าเบี้ยประกันชีวิตรายปีไม่ควรเกิน 10% ของรายได้ต่อปี ก็เป็นอันใช้ได้ครับ
หลังจากได้ข้อสรุปของคำถามทั้งสามข้อนี้แล้ว สิ่งสุดท้ายที่เพื่อนๆ ต้องทำก็คือ เปรียบเทียบข้อเสนอประกันชีวิตของบริษัทต่างๆ และเลือกอันที่เหมาะสมกับเป้าหมายและความสามารถในการชำระนั่นเองครับ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถทำได้เลยบนเว็บไซต์โกแบร์ หรือถ้าอยากหาข้อมูลเพิ่มเติมลองกดดูได้เลยครับ
[1] ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก คปภ.